เมนู

6. อากังเขยยสูตร


[73] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล พระผู้มี
พระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย. ภิกษุ
เหล่านั้นทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระเจ้าข้า. พระผู้มี
พระภาคเจ้า
ได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีศีลอัน
สมบูรณ์ มีปาฏิโมกข์อันสมบูรณ์อยู่เถิด จงเป็นผู้สำรวมด้วยความสำรวม
ในปาฏิโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจรอยู่เถิด จงเป็นผู้เห็นภัยใน
โทษทั้งหลายมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลายเถิด.

ความหวังที่ 1


[74] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า ขอเราพึงเป็น
ที่รัก เป็นที่ชอบใจ เป็นที่เคารพ และเป็นผู้ควรยกย่องของเพื่อน
พรหมจรรย์ทั้งหลายเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นควรกระทำให้บริบูรณ์ในศีล
ประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง ประกอบ
ด้วยวิปัสสนาเพิ่มพูน ( การอยู่ใน) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 2


[75] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า ขอเราพึงได้
จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารเถิด ดังนี้

ภิกษุนั้นควรกระทำให้บริบูรณ์ในศีล ประกอบธรรมเครื่องระงับจิตอัน
เป็นไปในภายใน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง ประกอบด้วยวิปัสสนา เพิ่มพูน
( การอยู่ใน ) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 3


[76] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราบริโภคจีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารของเทวดาและมนุษย์
เหล่าใด สักการะเหล่านั้นของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้นพึงมีผลานิสงส์มาก
ดังนี้ ภิกษุนั้นควรกระทำให้บริบูรณ์ในศีล ประกอบธรรมเครื่องระงับ
จิตของตน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง ประกอบด้วยวิปัสสนา เพิ่มพูน
(การอยู่ใน ) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 4


[77] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า ญาติและ
สาโลหิตของเราเหล่าใด ล่วงลับทำกาละไปแล้ว มีจิตใจเลื่อมใส ระลึก
ถึงอยู่ ความระลึกถึงด้วยจิตอันเลื่อมใสของญาติและสาโลหิตเหล่านั้น
พึงมีผลานิสงส์มากเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นควรการทำให้บริบูรณ์ในศีล
ประกอบธรรมเครื่องระงับจิตอันเป็นไปในภายใน ไม่ทำฌานให้เหินห่าง
ประกอบด้วยวิปัสสนา เพิ่มพูน (การอยู่ใน) สุญญาคาร.

ความหวังที่ 5


[78] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็น
ผู้ข่มความไม่ยินดีและความยินดีได้ อนึ่ง ความไม่ยินดีอย่าพึงครอบงำ